ข้อมูลปลา

Cichlasoma sp.

ปลาหมอนกแก้วมีดวงตาโต ม่านตาใหญ่จนบางคราวดูไม่เหมือนทรงกลม เป็นนวงรีหรือไม่ก็เป็นขีด ดำๆ หนาๆ พาด ผ่านตามแนวนอนของ ลูกตา ตู้ที่เหมาะสม ควรไม่ต่ำกว่า 30 นิ้ว เป็น ปลาที่ค่อนข้าง ก้าวร้าว อันที่จริง เป็นปลาที่ไม่ค่อยดุนัก และสามารถเลี้ยงรวมกับปลาอื่นที่ ขนาดเท่ากันได้ การจัดตู้ควรจัดให้โล่งๆ ตกแต่งด้วยหินขนาดใหญ่และขอนไม้ ปลานกแก้วเป็น ปลาที่ชอบขุดคุ้ย หรืออาจใส่ภาชนะดินเผา ประเภทหม้อ ไห เพื่อให้ปลาได้อาศัย ปลาหมอนกแก้วถ้าเลี้ยงรวมกับปลาชนิดอื่น จะสงบเงี่ยมเจียมตัว แต่ถ้าเลี้ยงกับพวกเดียวกันหลายๆ ตัว จะมีการไล่กัน การให้อาหาร ให้กุ้งฝอย หรือ ไรทะเล จะทำให้สีปลาสด สามารถให้อาหารด้วยมือ

แต่ระวังบางทีปลา อาจจะเล่นแรงไป จนทำให้เลือดซิบได้ การเพาะพันธุ์ ส่วนมากปลานกแก้วจะเป็น หมันโดยเฉพาะตัวผู้ อันเป็นผล มาจาก การย้อมสีปลา ปลาอาจจะจับคู่และวางไข่ แต่ไม่ฟักเป็นตัว แต่ปลา ที่ไม่ย้อมสี จะสามารถให้ลูกได้ กับปลาอื่นๆ การจับคู่ ผสมพันธุ์จะทำกันเองในตู้ เป็นปลาวางไข่ ได้ง่ายและ ปริมาณมากๆ ค่า pH ประมาณ 6.6-6.8 จะเหมาะแก่ การฟักไข่ มากที่สุด ถ้าค่า pH สูงมากเกินไป จะทำให้ผิวของไข่เหนียว จนลูกปลา ไม่สามารถเจาะทะลุออกมาได้ และน้ำมีค่า pH ต่ำเกินไป ความเป็นกรดก็ จะทำลายสเปิร์ม ของปลาตัวผุ้ จนทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิ ลูกปลาฟักเป็นตัวใหม่ๆ ยังไม่กลม เหมือนพ่อ แม่ ช่วงแรกปล่อยให้ ครอบครัว ดูแลกันเอง พ่อแม่ลูก จนลูกปลาว่ายน้ำและออกหากินได้ จึงค่อยแยกออกมาเลี้ยงต่างหาก ปลาช่วงเล็กๆ ควรให้อาหารสด เช่น ไรแดง ไส้เดือนฝอย บ่อยๆ แต่ไม่ควร ให้ครั้งละมากจนเกินไป นอกจากปลาหมอนกแก้ว ยังมีปลาหน้าตาคล้ายๆ กัน เช่น เยลลี่บีน(Jelly Bean Parrot) ปลาหมอบัทเบิมกัม แพรอท (Bubble Gum Parrot) บางทีคนไทยเรา เรียก ท็อฟฟี่ ก็มีเนื่องจาก ปลามีหลากหลายรูปแบบ สีของปลาหมอนกแก้ว แตกต่างกันออกไป สีแดงสด เรียกว่า เรดบลัดแพรอท สีแดงอมม่วง เรียกว่า เพอเพิลบลัดแพรอท ส่วนนกแก้วที่มี การตัดต่อสายพันธุ์ ทีไม่มีหางลักษณะ รูปหัวใจเรียกว่า เลิฟฮาร์ดแพรอท นกแก้วที่มีส่วนโค้ง มนรับกับส่วนหลัง ไม่หักชันเหมือนนกแก้วทั่วไป ปากเป็น รูปปกติเหมือน เรดเดวิล เรียก ปลาหมอคิงคอง บลัด แพรอท และ ปลาหมอนกแก้วที่มีลายดำเป็นปื้นๆพาดไปมามากบ้าง น้อยบ้าง บางที เรียกว่า หล่อฮั่น เป็นต้น